วันอังคารที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2557

Lesson14



บันทึกอนุทิน

Date 21 November 2014
Science Experiences Management For Early Childhood
Teacher Jintana Suksamran



Knowledge  

กิจกรรมที่1 ส่งของเล่นวิทยาศาสตร์
















กิจกรรมที่2 การนำเสนองานวิจัย-โทรทัศน์ครู

             1 นำเสนองานวิจัยเรื่อง ผลการจัดประสบการณ์เน้นทักษะทางวิทยาศาสตร์ ชั้นอนุบาลปีที่2 

ความสำคัญของการวิจัย

             ในการวิจัยโดยเน้นทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของชั้นอนุบาลปีที่2 เป็นการจัดกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้เด็กได้คิดและลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง ให้โอกาสเด็กได้ใช้ประสาทสัมผัสทั้ง5 ในการเรียนรู้ซึ่งเป็นลักษณะของการใช้ทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง จะสามารถส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ได้

ทักษะที่เด็กได้รับ

         1 การสังเกต   
    
         2 การจำแนก

         3 การวัด

         4 การลงความเห็น




            2 นำเสนองานวิจัยเรื่องการพัฒนาชุดการสอนหน่วยวิทยาศาสตร์น่ารู้ ชั้นอนุบาล2

ความมุ่งหมายของการวิจัย

             1 พัฒนาชุดการสอนแบบศูนย์การเรียนหน่วยวิทยาศาสตร์น่ารู้ชั้นอนุบาลปีที่2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน

            2 เพื่อเปรียบเทียบคะแนนก่อนเรียน

ทักษะที่เด็กได้รับ

           1 การจำแนก

           2 การวัด

           3 การลงความเห็น




           3 การนำเสนอวิจัยเรื่อง ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมกระบวนการทางวิทยาศาสตร์นอกห้องเรียน :เพิ่มเติม

ความมุ่งหมายของการวิจัย

          1 ระดับความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรม กระบวนการทางวิทยาศาสตร์นอกห้องเรียน

          2 เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของเด็กปฐมวัยก่อนและหลังเรียนได้รับการจัดกิจกรรมกระบวนการทางวิทยาศาสตร์นอกห้องเรียน

ความสำคัญ

           เป็นการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของเด็กปฐมวัยโดยได้รับการจัดกิจกรรมกระบวนการทางวิทยาศาสตร์นอกห้องเรียนและเป็นแนวทางในการใช้วิธีการสอนและจัดกิจกรรม

ตัวอย่างหน่วย

  1 แว่นขยายห็นชัดเจน

            1.1 ให้เด็กสำรวจสิ่งแวดล้อม

            1.2 ให้แว่นขยายเพื่อให้เด็กไปสำรวจ

            1.3 ให้เด็กศึกษารายละเอียดของสิ่งที่นำมา

            1.4 ครูใช้คำถาม

            1.5 ให้เด็กวาดภาพสิ่งที่เด็กๆไปสำรวจ

            1.6 นำออกมาเล่าให้เพื่อนๆฟัง




             4 นำเสนองานวิจัยเรื่อง การพัฒนาทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัยการจัดกิจกรรมการทำเครื่องดื่มน้ำสมุนไพร :เพิ่มเติม

ความมุ่งหมายของการวิจัย

             1เพื่อศึกษาระดับทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัย ก่อนและหลังการทดลองการจัดกิจกรรม

             2 เพื่อความเปรียบเทียบระดับของระดับทักษะพื้นฐานของเด็กปฐมวัย ก่อนและหลังการจัดกิจกรรม

ความสำคัญ

             การจัดกิจกรรมทำเครื่องดื่มน้ำสมุนไพรเป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้เด็กได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรง เด็กจะได้เรียนรู้ผ่านประสาทสัมผัสทั้ง5 ในการสังเกต ทดลอง สัมผัส ดมกลิ่น ชิมรสอาหาร ในขณะที่ดำเนินกิจกรรมทำน้ำสมุนไพร เด็กได้สังเกตการเปลี่ยนแปลงของอาหาร เรียนรู้การเปรียบเทียบการชั่ง ตวง วัด และได้เรียนรู้กระบวนการทำงานทำให้เด็กเกิดการเรียนรู้ การเข้าใจเปลี่ยนแปลงของสิ่งต่างๆ จนสามารถนำมาใช้ในการพัฒนาความคิดและการสื่อความหมาย การจัดกิจกรรมทำน้ำเครื่องดื่มสมุนไพรทำให้เด็กได้เรียนรู้ทักษะพื้นฐาานทางวิทยาศาสตร์ รู้จักคุณประโยชน์ของอาหารและโภชนาการ เรียนรู้การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์

ทักษะที่เด็กได้รับ

            1การสังกต

            2การวัด

            3การจำแนก

            4การสรุปข้อมูล

วิธีการสอน

ขั้นนำ 

นำเข้าสู่กิจกรรมด้วยเพลง คำคล้องจองปริศนาคำทายและสื่อต่างๆ

ขั้นสอน 

        1. ครูแนะนำวัสดุอุปกรณ์

        2. ครูแนะนำกิจกรรมการทำน้ำฝรั่ง พร้อมวิธีการทำอย่างละเอียด

        3. ครูและด็กร่วมกนทำน้ำฝรั่ง

        4. ครูและเด็กร่วมกันรับประทานน้ำฝรั่ง

ขั้นสรุป

        1. ครูใช้คำถามกับเด็ก

        2. ครูและเด็กร่วมกันสรุปวิธีการทำน้ำฝรั่ง





นำเสนอโทรทัศน์ครู

         1  ชื่อเรื่อง กิจกรรมส่องนกในโรงเรียน

เด็กจะได้สัมผัสกับธรรมชาติ สังเกตสิ่งแวดล้อมรอบตัว การให้อาหารนกรู้ลักษณะต่างๆของนก

วิธีการสอน

ขั้นนำ

เด็กๆเรียนรู้ชื่อนกและลักษณะของนกจากครู

ขั้นสอน

        1ครูให้เด็กไปสำรวจนก

        2เด็กส่งนกพร้อมกับจดบันทึก  

ขั้นสรุป

ครูและเด็กร่วมกันสรุปนกที่ได้พบเจอมา

ทักษะที่เด็กได้รับ

         1 การสังเกต

         2 การจำแนก

         3การสื่อความหมาข้อมูล

         4การลงความเห็น




          2 ชื่อเรื่อง สอนเด็กอย่างไรให้มีจิตวิทยาศาสตร์

                การสอนให้เด็กมีจิตวิทยาศาสตร์ คือ ต้องสอนให้เด็กเป็นคนช่างสังเกต มีความรอบคอบ ละเอียดถี่ถ้วน ครูต้องมีวิธีการสอนวิทยาศาสตร์ที่ทำให้เด็กเห็นว่ามันไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อ เรียนสนุก เกิดความอยากรู้อยากเห็นและเกิดความสงสัย ประเมินเด็กจากการสังเกตพฤติกรรมของเด็กว่ามีการสังเกตสิ่งต่างๆมากขึนหรือไม่สนใจในสิ่งต่างๆรอบตัวหรือเปล่า




           3 ชื่อเรื่อง จุดประกายนักวิทยาศาสตร์น้อย

                    หลักการสอน  สอนให้สนุก สอนเรื่องที่ไม่ไกลตัวเด็ก เน้นการทดลอง เพื่อให้เด็กได้ลงมือกระทำจะทำให้เด็กไม่ลืม

                    การจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องเสียง ให้เด็กได้เรีนรู้ผ่านกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการให้เด็กได้แสดงความสามารถทางด้านดนตรี หรือโชว์สื่อที่มีเสียงให้เด็กตื่นตาตื่นใจคือ ไก่กระตาก กระป๋องร้องได้ หลังจากลองให้เด็กเล่นครูใช้คำถามถามเด็กว่าเกิดเสียงขึ้นได้อย่างไร                                                             





กิจกรรมที่3 Cooking  : สูตรการทำขนมวาฟเฟิล



อาจารย์แนะนำอุปกรณ์และวิธีการทำ



อาจารย์สาธิตให้ดูเป็นตัวอย่าง



เตรียมไส้วาฟเฟิล



ลงมือปฏิบัติ



เมื่อวาฟเฟิลสุกแล้ว




วาฟเฟิลของหนู




What will further developed

         การสอนให้เด็กมีจิตวิทยาศาสตร์ คือ ต้องสอนให้เด็กเป็นคนช่างสังเกต มีความรอบคอบ ละเอียดถี่ถ้วน ครูต้องมีวิธีการสอนวิทยาศาสตร์ที่ทำให้เด็กเห็นว่ามันไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อ เรียนสนุก เกิดความอยากรู้อยากเห็นและเกิดความสงสัย สอนเรื่องที่ไม่ไกลตัวเด็ก เน้นการทดลอง เพื่อให้เด็กได้ลงมือกระทำจะทำให้เด็กไม่ลืม

Evaluation

Me

         ตั้งใจและมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรม พยายามจดเนื้อหาที่สำคัญจากเพื่อนนำเสนองานวิจัยและนำเสนอบทความ สนุกกับการขนมวาฟเฟิล

Friends

         เพื่อนๆบางคนไม่ฟังคำสั่งอาจารย์ในขณะที่ทำกิจกรรม ทำให้เสียเวลาและเกิดความวุ่นวาย แต่เพื่อนบางคนก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี  ทุกคนสนุกสนานและตื่นเต้นกับการทำกิจกรรมในครั้งนี้มาก

Teachers

        ชอบเทคนิคการสอนของอาจารย์ เพราะมีเทคนิคการสอนที่หลากหลายไม่จำเจ มีการให้นักศึกษาได้ลงมือปฏิบัติ ทำให้มีความเข้าใจมากขึ้น ขณะทำกิจกรรมหรือสอนทุกครั้งอาจารย์จะบอกเทคนิคต่างๆ เช่น การสอนเด็กทำCooking ครูต้องบอกข้อตกลงในทำกิจกรรมก่อน จากนั้นอธิบายอุปกรณ์ วิธีการทำและข้อควรระวังในการทำกิจกรรม จากนั้นครูสาธิตวิธีการทำให้เด็กๆดู แล้วครูกับเด็กๆทำกิจกรรมพร้อมกัน สุดท้ายให้เด็กออกมาสรุปและพูดความรู้สึกเกี่ยวกับการทำกิจกรรม



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น